ทิวเขาโฮตากะ อันกว้างใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ในภูมิภาพชินชู ทางตอนกล
างของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่นาฬิกาสปริงไดรฟ์ ของ Grand Seiko ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา พระอาทิตย์ที่สะท้อนภูมิทัศน์อันสูงตระหง่านในยามรุ่งสาง ก่อให้เกิดฉากทัศน์ภูเขาที่งดงามด้วยสีสันอันสดใสซึ่งแปรเปลี่ยนจากสีชมพูไปสู่สีส้มในขณะที่ช่วงเวลายามเช้าดำเนินไป นาฬิการุ่นนี้โดดเด่นด้วยดีไซน์ตัวเรือนอันทรงพลังที่เต็มไปด้วยเหลี่ยมมุมซึ่งมีแรงบันดาลใจมาจากสิงโต อันเป็นสัญลักษณ์ประจำแบรนด์มาตั้งแต่นาฬิการุ่นแรกของ Grand Seiko ใน ค.ศ.1960 สิงโตสื่อความหมายถึงความแข็งแกร่งและความกล้าหาญ และเป็นตัวแทนของเป้าหมายของคณะทำงานทีมแรกของ Grand Seiko ที่ต้องการสร้างนาฬิกาที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาสามารถทำได้ทั้งในแง่ของความเที่ยงตรงแม่นยำ ความชัดเจนในการอ่านค่าเวลา ความทนทาน และความสวยงาม และคุณค่าเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ตราบจนทุกวันนี้ การปรากฏตัวของสิงโตได้แสดงให้เห็นในทุกรายละเอียดของนาฬิการุ่นใหม่นี้ ยกตัวอย่างเช่น ความเป็นมุมของตัวเรือน และขาตัวเรือนที่มีลักษณะคล้ายกรงเล็บที่ตกแต่งด้วยการปัดลายละเอียด ซึ่งสร้างความเปรียบต่างกับพื้นผิวขัดเงาแบบซารัตสึ
นาฬิการุ่นนี้กันน้ำได้ถึง 20 บาร์ เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพระดับสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อมของการเล่นกีฬา เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีถูกออกแบบเพื่อเพิ่มความชัดเจนในการอ่านค่าเวลา และหลักชั่วโมงที่มีขนาดกว้างยังช่วยทำให้อ่านค่าเวลาได้ชัดขึ้น อันเป็นคุณลักษณะที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Grand Seiko ตัวเรือนและสายทำขึ้นจากไทเทเนียม ชนิดความหนาแน่นสูง ซึ่งเบากว่าสเตนเลสสตีลประมาณ 30% และให้สีที่สว่างกว่า สายของนาฬิกาก็ได้รับการออกแบบมาให้สวมใส่สบาย โดยมีข้อชิ้นหนาเป็นรูปอักษร H ที่เข้ากับข้อมือทุกขนาดได้อย่างง่ายดาย เข็มชั่วโมงและนาทีรวมถึงหลักชั่วโมงถูกเคลือบด้วยสารลูมิไบรท์ ที่เรืองสว่างเป็นสีเขียว ในขณะที่เข็ม GMT และตัวเลขบนวงขอบตัวเรือนนั้นเรืองสว่างเป็นแสงสีฟ้า เพื่อช่วยเพิ่มความชัดเจนให้กับการอ่านค่าเวลาในความมืด
