SLGT003

SLGT003

฿14,560,000

สั่งจองสินค้าได้

สั่งจองสินค้าได้

SPECIFICATIONS

Calibre
Case
Layout

FEATURES

https://www.youtube.com/watch?v=i5m2Dh6ayfo

ค.ศ.2020 เป็นปีที่ Grand Seiko ทำการแนะนำ “T0 Constant-force Tourbillon” (ทีซีโร คอนสแตนท์-ฟอร์ซ ทูร์บิญอง) เครื่องนาฬิกาแนวคิดซึ่งประสานรวมกลไกคอนสแตนท์-ฟอร์ซ และกลไกทูร์บิญอง เข้าเป็นหนึ่งยูนิตบนแกนเดียวกัน การนำแนวคิดมาสู่การใช้งานในเรือนเวลาที่ผลิตออกจำหน่ายจริงต้องใช้ความทุ่มเทอย่างสูงของคณะทำงานซึ่งประกอบด้วย นักออกแบบ วิศวกร ไปจนถึงช่างฝีมือที่ได้รับความไว้วางใจให้กระทำการประกอบและตกแต่งเครื่องและตัวเรือน แต่ละชิ้นของส่วนประกอบ 340 ชิ้นในคาลิเบอร์ถูกตรวจสอบและทบทวนอีกครั้งโดยบางชิ้นก็จำเป็นต้องออกแบบและสร้างขึ้นมาใหม่เพื่อให้เหมาะกับการผลิตขึ้นใช้งานจริง ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ คาลิเบอร์ 9ST1 ที่ไม่เพียงมีขนาดเล็กกว่าเครื่องแนวคิดซึ่งเป็นเครื่องต้นแบบเท่านั้น แต่ยังสามารถคงเสถียรภาพของความเที่ยงตรงระดับสูงไว้ได้ในระยะเวลาที่ยาวนานกว่าเดิมด้วยประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของกลไกคอนสแตนท์-ฟอร์ซ นอกจากนี้ คาลิเบอร์ 9ST1 ยังได้กำหนดมาตรฐานใหม่ของความเที่ยงตรงแม่นยำขึ้นมานั่นก็คือ แต่ละเครื่องจะต้องถูกตรวจสอบด้วยขั้นตอนการทดสอบเป็นเวลา 48 ชั่วโมงเต็มในแต่ละตำแหน่งของ 6 ตำแหน่งที่ 3 ระดับอุณหภูมิ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเป็น 2 เท่าของมาตรฐาน Grand Seiko การประเมินเพื่อตรวจสอบความแม่นยำของแต่ละเครื่องจะใช้เวลานานถึง 34 วัน และเมื่อผ่านการทดสอบตามมาตรฐานใหม่นี้แล้ว ประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละเครื่องไม่ว่าจะเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหรือยอดเยี่ยมกว่ามาตรฐานก็จะถูกระบุไว้ในเอกสารรับรองของแต่ละคาลิเบอร์ที่มอบมาให้กับนาฬิกาแต่ละเรือนด้วย

เรือนเวลาจักรกลระดับซับซ้อนรุ่นแรกของ Grand Seiko

ก้าวใหม่ในประวัติศาสตร์ 62 ปีของ Grand Seiko (แกรนด์ ไซโก) มาถึงแล้วด้วยการนำเสนอ Grand Seiko Kodo Constant-force Tourbillon (แกรนด์ ไซโก โคโดะ คอนสแตนท์-ฟอร์ซ ทูร์บิญอง) เรือนเวลาจักรกลระดับซับซ้อนรุ่นแรกของ Grand Seiko หัวใจของเรือนเวลารุ่นนี้ คือ นวัตกรรมเครื่องจักรกลรูปแบบเฉพาะตัวที่มอบความเที่ยงตรงด้วยเสถียรภาพระดับสูงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในเรือนเวลา Grand Seiko โดยเป็นการรวมกลไกทูร์บิญองและกลไกคอนสแตนท์-ฟอร์ซ เข้าเป็นหนึ่งยูนิตบนแกนเดียวกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การประดิษฐ์เครื่องบอกเวลา เรือนเวลารุ่นนี้ถูกให้ชื่อว่า Kodo (โคโดะ) ซึ่งเป็นคำในภาษาญี่ปุ่นที่หมายถึงการเต้นของหัวใจ ด้วยลักษณะเฉพาะตัวของการเคลื่อนไหวและเสียงการทำงานของกลไกที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เรือนเวลาระดับปฏิวัติวงการรุ่นนี้จึงแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาทั้งทางเสียงและภาพ ด้วยดีไซน์แบบโอเพน-เวิร์ก และฝาหลังกรุกระจกแซพไฟร์ ที่เผยให้เห็นความงดงามของกลไกอย่างชัดเจน สิ่งโดดเด่นที่สุดของเรือนเวลารุ่นนี้ก็คือ การรวมกลไกคอนสแตนท์-ฟอร์ซ ซึ่งมอบแรงขับเคลื่อนอย่างคงที่ และกลไกทูร์บิญอง ซึ่งมอบความเที่ยงตรงในระดับสูงสุด เข้าไว้ด้วยกัน ในดีไซน์ที่สอดคล้องควรคู่กับคุณค่าของ Grand Seiko ผู้นำอัจฉริยภาพทางเทคนิคมาอยู่ในเรือนเวลาที่งามสง่าและเหมาะกับการสวมใส่เป็นอย่างยิ่ง

บูรณาการแห่ง 2 กลไก

คาลิเบอร์ 9ST1 มีความซับซ้อนในด้านวิศวกรรมและการออกแบบแต่เข้าใจได้ไม่ยาก การรวมกลไกคอนสแตนท์-ฟอร์ซ และกลไกทูร์บิญอง เข้าเป็นหนึ่งยูนิตบนแกนเดียวกันเช่นนี้จะทำให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติเพราะไม่ต้องมีจักรหรือส่วนประกอบอื่นใดระหว่าง 2 กลไกนี้ จึงไม่มีการสูญเสียหรือเปลี่ยนแปลงแรงบิดที่ส่งจากกลไกคอนสแตนท์-ฟอร์ซ ไปสู่จักรกลอก รูปแบบเช่นนี้ส่งผลให้กลไกคอนสแตนท์-ฟอร์ซ สร้างแรงคงที่ได้นานขึ้นด้วยระยะเวลาถึง 50 ชั่วโมง และทำให้ระยะแกว่งตัวของจักรกลอกมีความเสถียรยิ่งขึ้น คุณลักษณะเหล่านี้ช่วยให้การทำงานของเครื่องมีความเที่ยงตรงแม่นยำอยู่เสมอ และที่สำคัญยิ่งสำหรับ Grand Seiko ก็คือ สามารถลดขนาดของตัวเครื่องให้เล็กลงได้จึงทำให้สามารถนำมาใช้กับความงดงามตามแบบฉบับของ Grand Seiko นั่นก็คือ เรือนเวลาที่ให้ความโดดเด่นในขณะสวมใส่และความสบายบนข้อมือได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นวัตกรรมแห่งความแม่นยำ ความงดงาม และเสียง

การรวมกลไกทั้งสองเข้าไว้ด้วยกันทำให้เกิดภาพอันน่าประทับใจ กรงทูร์บิญองที่อยู่ชั้นในเคลื่อนหมุนรอบตนเองอย่างราบรื่นโดยมีจักรกลอกแกว่งขยับอย่างต่อเนื่องด้วยความถี่ 8 ครั้งต่อวินาที ในขณะที่กรงคอนสแตนท์-ฟอร์ซ ที่อยู่ชั้นนอกจะเคลื่อนหมุนที่จังหวะละ 1 วินาที เสียงจากการปล่อยจักรและจากแรงกระตุ้น 1 ครั้งต่อวินาทีของกลไกคอนสแตนท์-ฟอร์ซ ประสานกับจังหวะของภาพที่ปรากฏจะสร้างลักษณะดุจการเต้นของหัวใจที่น่าประทับใจยิ่งสู่สายตาและโสตสัมผัส เสียงเสน่ห์ที่ทรงพลังแต่อ่อนโยนนี้ถูกปรับตั้งให้เป็นเสียงโน้ตตัวที่ 16 หรือ เซมิ-ควอฟเวอร์ ซึ่งสามารถกระทำได้เพราะ 9ST1 เป็นเครื่องที่มีความถี่การทำงานสูงที่สุด*ในบรรดาเครื่องนาฬิกาที่มีกลไกคอนสแตนท์-ฟอร์ซ ทั้งหมด เท่าที่เคยถูกสร้างขึ้นมา
*ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2022 จากการค้นคว้าของ Grand Seiko

2 วัสดุที่ผสมผสานอย่างลงตัว

ตัวเรือนถูกสร้างขึ้นจาก แพลทินัม 950 และ บริลเลียนท์ ฮาร์ด ไทเทเนียม (ไทเทเนียมชนิดเคลือบแข็งและมีความเรืองรอง) ของ Grand Seiko เพื่อให้ได้มาซึ่งความงามที่คงทน พื้นที่ต่าง ๆ บนตัวเรือนซึ่งสร้างขึ้นจากวัสดุทั้ง 2 ชนิดได้รับการขัดเงาดุจกระจกเงาสลับกับการปัดลายเส้นละเอียดแบบแฮร์ไลน์ โดยทั้ง 2 กระบวนการถูกกระทำด้วยมือของช่างฝีมือทักษะสูงเพื่อให้เกิดความงดงามกลมกลืนในทุกมุมมอง จุดบรรจบที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดของวัสดุตัวเรือนทั้ง 2 ชนิดอยู่ที่ส่วนปลายของขาตัวเรือนอันเป็นตำแหน่งบรรจบของช่องว่างขนาดเล็กระหว่างแนวขาของวัสดุทั้งสองซึ่งช่วยเพิ่มความเบาและมอบรูปลักษณ์แบบเฉพาะตัวให้กับดีไซน์ในภาพรวม

แสง เงา และพื้นที่

ด้วยการรวม 2 ชนิดกลไกสำคัญเข้าไว้ด้วยกันทำให้คาลิเบอร์ 9ST1 มีที่ว่างภายในตัวเรือนและมีพื้นที่เพียงพอให้แสงทะลุผ่านทั้งจากฝั่งด้านหน้าและด้านหลังของตัวเรือนเพื่อเผยให้เห็นความงดงามของงานตกแต่งที่กระทำด้วยมือ ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ ความสัมพันธ์อันละเอียดอ่อนของแสงและเงาซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งสุนทรียศาสตร์อันงดงามของ Grand Seiko จึงสามารถแสดงออกได้อย่างเต็มที่ผ่านการไล่เฉดสี เหลี่ยมมุม และพื้นผิว ส่วนประกอบหลักแต่ละชิ้นถูกตกแต่งด้วยมืออย่างประณีตด้วยเทคนิคที่หลากหลายเพื่อให้ตัวเครื่องในภาพรวมมีความสงบนิ่งแต่เต็มไปด้วยประกายอันงดงามซึ่งเป็นลักษณะเด่นของ Grand Seiko

    Current :
  • TH
  • EN