เรื่องราวความรักใต้หน้าปัดนาฬิกาคลาสสิก Grand Seiko 4 เรือน
เรื่องราวความรักใต้หน้าปัดนาฬิกาคลาสสิก Grand Seiko 4 เรือน
คล้อยหลังเทศกาลปีใหม่ 2 เดือน ลมหนาวที่มาพร้อมกับกลิ่นอายของความรักก็ลอยมา เป็นสัญญาณว่าวันวาเลนไทน์ใกล้มาถึงแล้ว และสำหรับช่วงเวลาเช่นนี้ หนึ่งในประเทศที่มีบรรยากาศอบอวลไปด้วยความโรแมนติกที่สุดคงต้องยกให้กับ ‘ประเทศญี่ปุ่น’ บทความนี้จึงจะมาบอกเล่าตำนานรักนิรันดร์ท่ามกลางการผลิบานและร่วงโรยของดอกซากุระ พร้อมด้วยธรรมเนียมของวันแห่งความรักในแบบฉบับญี่ปุ่น ทั้งสำหรับคนมีคู่และคนโสด ปิดท้ายด้วยการแนะนำนาฬิกาคลาสสิก Grand Seiko 4 เรือนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวที่แสนอบอุ่น และเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำไปมอบเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษ ติดตามได้เลย
ลำนำความรัก ‘ซากุระ’ และ ‘โยฮิโระ’
เมื่อซากุระเริ่มผลิดอกบานสะพรั่งเต็มต้น ยามนั้นคือสัญญาณจากธรรมชาติที่บ่งบอกว่าวสันต์ฤดูได้เดินทางมาถึงแล้ว แต่สำหรับชาวญี่ปุ่น นอกจากสีชมพูสวยงามที่ละลานเต็มสายตาแล้ว ยังมีหนึ่งเรื่องราวแสนซาบซึ้งกินใจที่ยังคงถูกเล่าขานอย่างไม่รู้จบ ท่ามกลางสายลมที่พัดหอบกลีบซากุระให้โปรยปราย
ย้อนกลับไปในอดีตอันไกลโพ้น ณ ห้วงเวลาที่ดินแดนอาทิตย์อุทัยยังคงคุกรุ่นด้วยเพลิงสงคราม บรรยากาศในยามนั้นช่างหดหู่ บ้านเรือนแปรสภาพเป็นซากปรักหักพัง มีเพียงเหล่าต้นไม้ผลผลิตแห่งธรรมชาติเท่านั้นที่ยังคงยืนโดดเด่นท้าทาย อย่างไรก็ตาม ลึกเข้าไปในพงไพร กลับปรากฏต้นไม้ต้นหนึ่งที่ราวกับโดนความเศร้าหมองจากสงครามกลืนกิน แม้ลำต้นจะยังแข็งแรง แต่กลับปราศจากการผลิดอกออกผลตามวัฏจักร ด้วยเหตุนี้ สัตว์ป่าจึงเกรงกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ แม้กระทั่งใบหญ้าก็ไม่อยากผูกมิตร
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโศกเศร้าก็ยังมีแสงสว่างแห่งความหวังปรากฏให้เห็น โดยภูติป่าตนหนึ่งที่เฝ้าสังเกตต้นไม้ต้นนี้ รู้สึกสะเทือนใจกับโชคชะตาที่ต้องประสบ ภูตป่าตนนี้จึงตัดสินใจเข้าไปหา พร้อมบอกเจตนารมณ์ว่าเธออยากเห็นต้นไม้ต้นนี้ผลิดอกเหมือนต้นไม้อื่น ๆ จึงเสนอการร่ายมนตร์เพื่อให้ได้พบกับความอบอุ่นในชีวิต และสามารถผลิดอกเพื่อให้ออกจากเงามืด
เวทย์มนตร์ดังกล่าวได้มอบตัวเลือกให้กับต้นไม้ต้นนั้น ว่าจะกลายร่างเป็นมนุษย์ หรือเป็นไม้ยืนต้นต่อไป แต่ภารกิจหนึ่งที่เหมือนกันไม่ว่าสถานะไหนคือต้องตามหาห้วงอารมณ์ที่จะช่วยให้ต้นไม้ผลิดอกออกผลได้ หากทำไม่สำเร็จภายในเวลา 20 ปี ชีวิตก็จะดับสูญลง
“ข้าขอเลือกที่จะเป็นมนุษย์” ต้นไม้พลันตอบรับ ก่อนที่เวทย์มนตร์จะร่ายเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นบุรุษผู้หนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ชีวิตในฐานะมนุษย์ก็ยังคงพานพบแต่ความเกลียดชังและโศกเศร้า ท่ามกลางไฟสงครามที่ไม่มีทีท่าจะมอดดับลง เขาจึงได้แต่พเนจรไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย ทว่า วันหนึ่ง ขณะเดินไปที่ลำธารใสเพื่อพักผ่อน พลันสายตาสังเกตเห็นสตรีที่งดงามดั่งบุปผาแรกแย้ม ในห้วงที่ราวกับเวลาหยุดนิ่ง นางหันมาบรรจบสายตากับต้นไม้ในคราบบุรุษ บทสนทนาจึงได้เริ่มต้นขึ้น ก่อนที่นางจะบอกว่าชื่อ ‘ซากุระ’
สายสัมพันธ์งดงามระหว่างทั้งสองเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อซากุระเป็นฝ่ายเอ่ยถามนามของบุรุษต้นไม้บ้าง ฝ่ายโดนถามที่ไม่เคยมีชื่อมาก่อน จึงได้แต่ตอบไปว่า ‘โยฮิโระ’ ซึ่งแปลว่า ‘ความหวัง’
จากนั้น ซากุระกับโยฮิโระได้พูดคุย ร้องเพลง และอ่านบทกวีร่วมกัน คู่ขนานไปกับความรักที่ก่อตัวขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่ง โยฮิโระรู้สึกว่าไม่อาจปั้นหน้าโกหกสตรีที่ตนรักได้อีกต่อไป จึงสารภาพความจริงไปว่า
“ข้าเป็นเพียงต้นไม้ในร่างมนุษย์ และอีกไม่นานข้าก็จะตาย เพราะยังผลิดอกออกผลไม่ได้”
ไม่นานหลังจากถ้อยคำสารภาพถูกเอื้อนเอ่ย โยฮิโระก็ต้องกลับคืนสู่ร่างต้นไม้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง แต่ขณะที่เขากำลังโศกเศร้าเจียนขาดใจ ซากุระก็มาหา โอบกอดเขาไว้อย่างอบอุ่น พร้อมสารภาพว่าเธอรักเขาเช่นกัน ในตอนนั้นเอง ภูตแห่งป่าก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง และได้ยื่นข้อเสนอให้ซากุระเลือกระหว่างการเป็นมนุษย์หรือการรวมร่างกับโยฮิโระในรูปแบบต้นไม้ สำหรับคำตอบ ซากุระไม่ลังเลแม้เพียงนิด เธอเลือกที่จะรวมเข้ากับต้นไม้ที่เธอรัก เพื่อได้อยู่ด้วยกันตลอดไป ท้ายที่สุด ด้วยความรักที่ซากุระมอบให้ โยฮิโระก็พบความอบอุ่นของชีวิต และสามารถผลิดอกได้สำเร็จ
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ซากุระจึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักบริสุทธิ์และนิรันดร์ที่ชาวญี่ปุ่นเล่าขานสืบต่อกันมาอย่างไม่เสื่อมคลาย รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตนาฬิกาคลาสสิก Grand Seiko รุ่นหนึ่งด้วย
ธรรมเนียมวาเลนไทน์ญี่ปุ่นสำหรับคนมีคู่
ตำนานความรัก‘ซากุระ’ และ ‘โยฮิโระ’ ได้ถูกส่งต่อมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ ชาวญี่ปุ่นจึงให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์อันเป็นเทศกาลแห่งความรักมากเป็นพิเศษ และสำหรับคนมีคู่ กิจกรรมสุดฮิตที่เหล่าคู่รักแดนปลาดิบนิยมทำร่วมกันมีดังต่อไปนี้
- จองเรียวกังพร้อมห้องอาบน้ำส่วนตัว
- เพลิดเพลินกับมื้ออาหารสุดพิเศษ
- สัมผัสความรักภายใต้แสงไฟสีสันสวยงาม
- ถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นความทรงจำ
นอกจากทำกิจกรรมร่วมกันแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือการมอบของขวัญให้คนรัก ซึ่งจะมีอะไรเหมาะสมไปกว่านาฬิกาข้อมือคลาสสิก จาก Grand Seiko ที่ทั้งสวยงาม และยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากตำนานความรักซากุระอีกด้วย โดยรุ่นที่แนะนำมีดังต่อไปนี้
นาฬิกาคลาสสิก SBGA413G
นาฬิกาคลาสสิกของ Grand Seiko มาพร้อมหน้าปัดที่จับภาพช่วงเวลาอันมีค่าในปฏิทินตามฤดูกาลของญี่ปุ่น นี่คือการตีความใหม่ที่ทันสมัยของ 62GS ผลงานที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากปี 1967 เมื่อดูหน้าปัดอย่างใกล้ชิดจะเห็นถึงความงามสีชมพูของแพดอกไม้ Hana-Ikada (ฮานา-อิคาดะ) ฉากที่ผู้คนชื่นชอบในช่วง Shunbun (ชุนบุน) หลังจากวันวสันตวิษุวัต ที่กลางวันและกลางคืนยาวเท่ากันในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อกลีบซากุระปลิวไปตามสายลมร่วงหล่นปกคลุมพื้นผิวของแม่น้ำ ดุจภาพสะท้อนลำนำความรักที่เล่าขาน
นาฬิกาข้อมือคลาสสิกรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก Spring Drive คาลิเบอร์ 9R65 ที่ประกอบด้วยมือโดยช่างฝีมือผู้เปี่ยมไปด้วยทักษะและความชำนาญทั้งชายและหญิงแห่ง Shinshu Watch Studio (ชินชู วอทช์ สตูดิโอ)
นาฬิกาคลาสสิก STGF359G
เมื่อลมพัดผ่านหิมะที่อยู่บนภูเขาที่ล้อมรอบสตูดิโอ ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตนาฬิกาข้อมือคลาสสิกเรือนนี้ สร้างระลอกคลื่นสะท้อนความงามในหน้าปัดที่มีพื้นผิวอันละเอียดอ่อนนี้ เข็มวินาทีที่ทำจากเหล็กสีฟ้า Blue Steel โดดเด่นชัดเจนเมื่อตัดกับสีขาวบริสุทธิ์ ทำให้มองเห็นเวลาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สะกดสายตาให้อยู่กับความกว้างใหญ่ของหน้าปัด กระจกแซฟไฟร์คริสตัลที่สมบูรณ์แบบ สีขาวบนตัวเรือนเปรียบดั่งลมหนาวและความรักบริสุทธิ์ระหว่างซากุระกับโยฮิโระ ดังนั้นนาฬิกาคลาสสิก STGF359G จึงเป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับของขวัญวาเลนไทน์
นาฬิกาคลาสสิก SBGE269
ในประเทศญี่ปุ่น แต่ละช่วงของ 4 ฤดูกาลที่หมุนเวียนตลอดปี จะมีประสบการณ์ใน 6 ช่วง และทุกฤดูกาลจะมีลักษณะที่โดดเด่นแตกต่างกัน การเปลี่ยนแปลงจากฤดูกาลหนึ่งไปยังอีกฤดูหนึ่งเต็มไปด้วยความละเอียดอ่อน ทำให้ธรรมชาติของเวลามีความใกล้ชิดกับสัมผัสแห่งความรู้สึกของเรามากยิ่งขึ้น นาฬิกาคลาสสิก Grand Seiko เรือนนี้เป็นผลงานที่ได้รับการรังสรรค์เพื่อเฉลิมฉลองให้กับ 24 ช่วงฤดูย่อยในรอบ 1 ปีหรือที่เรียกว่า ‘Sekki’ (เซกกิ) สะท้อนช่วงเวลาโรแมนติกที่ได้ใช้ร่วมกับคนรัก จึงเป็นอีกหนึ่งเรือนที่เหมาะเป็นของขวัญวาเลนไทน์
ธรรมเนียมวาเลนไทน์ญี่ปุ่นสำหรับคนโสด
สำหรับประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้มีเพียงคนมีคู่เท่านั้นที่รู้สึกอินกับเทศกาลวันวาเลนไทน์ เรียกว่าตำนานความรักที่ขับขาน ทำให้คนโสดก็มีกิจกรรมที่นิยมทำกันเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
- ทำช็อกโกแลตมอบให้เพื่อน
- ออกไปปาร์ตี้
- ใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่ออกเดท
นอกจากนี้ ถึงแม้จะไม่มีคนรักให้มอบของขวัญให้ แต่คนโสดญี่ปุ่นก็นิยมมอบของขวัญวันวาเลนไทน์ให้กับสมาชิกครอบครัว หรือเพื่อนสนิท และแน่นอนว่านาฬิกาคลาสสิก Grand Seiko คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์อย่างยิ่ง โดยขอแนะนำเป็นรุ่น SLGA009G
นาฬิกาคลาสสิก SLGA009
นาฬิกาข้อมือคลาสสิก SLGA009 ถ่ายทอดอารมณ์อันเงียบสงบของป่าต้นเบิร์ชสีขาวใกล้กับสตูดิโอใน Shinshu ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตนาฬิกาคลาสสิก Grand Seiko Spring Drive ทุกเรือน การมองดูหน้าปัดเปรียบดั่งการได้สัมผัสกับความรู้สึกเดียวกับที่ผู้มาเยือนป่าแห่งนี้ ที่ได้เข้าใกล้กับธรรมชาติของเวลาที่แท้จริง และเป็นนิรันดร์มากขึ้นกว่าเดิม
ด้วยกลไก Spring Drive 9RA2 ที่บรรจุอยู่ใน นาฬิกาข้อมือคลาสสิก SLGA009 ซึ่งผลิตด้วยมือโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ คือเทคโนโลยีกลไกที่มีเอกลักษณ์ สามารถสร้างพลังงานได้เหมือนกับนาฬิกาจักรกลที่หรูหรา อีกทั้งยังพิเศษตรงที่ได้ผสมผสานคุณสมบัตินี้เข้ากับตัวปรับตั้งอิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งมอบระดับความเที่ยงตรงที่ไม่มีนาฬิกาจักรกลเรือนไหนเทียบได้ สิ่งนี้ถือเป็นตัวแทนแห่งความห่วงใยที่พิเศษและไม่เสื่อมคลาย เหมาะอย่างยิ่งที่จะมอบเป็นของขวัญในวันวาเลนไทน์ให้แก่สมาชิกครอบครัว หรือเพื่อนสนิท
ซื้อนาฬิกาคลาสสิก Grand Seiko ได้สะดวกผ่านช่องทางออนไลน์
สำหรับนาฬิกาคลาสสิก ที่สามารถมอบเป็นของขวัญในวันวาเลนไทน์ทั้ง 4 รุ่นแนะนำนี้ รวมถึงอีกหลากหลายรุ่น สามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์กับตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์โดยตรง หมดห่วงเรื่องของปลอม พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของเรือนเวลาสัญชาติญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานกว่าศตวรรษได้แล้ววันนี้