ในปี 2019 Grand Seiko ได้เปิดตัวนาฬิกาสปอร์ตดีไซน์ใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิงโต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์นับตั้งแต่การเปิดตัว Grand Seiko ครั้งแรกในปี 1960 ดีไซน์ซีรีส์ใหม่ได้นำความล้ำหน้าที่แตกต่างมาสู่นาฬิกาสปอร์ตของ Grand Seiko ด้วยเหลี่ยมมุมที่เฉียบคมตลอดจนตัวเรือนที่แข็งแกร่ง และล่าสุด นาฬิกา สปริงไดรฟ์ โครโนกราฟ จีเอ็มที ดีไซน์ทรงพลังนี้ ได้ร่วมเป็นหนึ่งในคอลเลกชั่นสปอร์ของ Grand Seiko เป็นครั้งแรก
สิงโต สัญลักษณ์แห่ง Grand Seiko
สิงโต เป็นดั่งสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงจุดมุ่งหมายของคณะทำงาน Grand Seiko รุ่นแรก ที่มุ่งมั่นสร้างเรือนเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเขาจะสามารถทำได้ ทั้งในแง่ของความแม่นยำ ความทนทาน และความสวยงาม ซึ่งปรากฏให้เห็นในหลายรูปแบบบนนาฬิกา ได้แก่ ตัวเรือนที่แข็งแกร่งและมีเหลี่ยมมุมดุจกรงเล็บ ขาตัวเรือนปัดลายเส้นแบบแฮร์ไลน์ สร้างความโดดเด่นจากพื้นผิวที่ถูกขัดเงาด้วยเทคนิคซารัตสึ และลวดลาย “แผงคอสิงโต” อันละเอียดอ่อนของผิวหน้าปัดที่สงวนไว้เฉพาะกับตัวเรือนรูปทรงนี้เท่านั้น ด้วยความงามและความแข็งแกร่งของสิงโตที่ถูกถ่ายทอดผ่านลวดลายบนพื้นผิวสีขาวงาช้าง หน้าปัดจึงให้ความรู้สึกอบอุ่น และทำให้รู้สึกถึงพลังได้ในทันทีด้วยการสะท้อนแสงจากทุกมุม ก่อให้เกิดความสว่างที่เงียบสงบ ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่โดดเด่นของ Grand Seiko
ผลงานดีไซน์สุดสร้างสรรค์เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของนาฬิกาสปอร์ต
นาฬิการุ่นนี้ สามารถกันน้ำได้ถึง 20 บาร์ เพื่อให้มั่นใจว่ามีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับกิจกรรมกีฬาทุกประเภท เข็มชั่วโมงและเข็มนาทีถูกออกแบบให้อ่านค่าเวลาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ตลอดจนหลักชั่วโมงที่มีขนาดกว้าง ช่วยเสริมความชัดเจนให้อ่านค่าเวลาได้ในทันทีอีกด้วย ตัวเรือนและสายถูกสร้างขึ้นจากไทเทเนียมชนิดความหนาแน่นสูง น้ำหนักเบากว่าสเตนเลสสตีลถึงประมาณ 30% อีกทั้งยังมีสีที่สว่างกว่า นอกจากนี้นาฬิกาสามารถวางตัวอยู่บนข้อมือได้อย่างง่ายดายด้วยแนวโค้งของขาตัวเรือนและการมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ สายนาฬิกาถูกออกแบบมาด้วยข้อรูปทรงอักษร H ชิ้นหนา เพื่อให้สวมใส่สบาย รัดรอบทุกขนาดข้อมือได้เป็นอย่างดี
ในขณะที่วงขอบตัวเรือนและเข็มจีเอ็มที เป็นแสงสีฟ้า ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในความมืด
เรือนเวลารุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก สปริงไดรฟ์ โครโนกราฟ จีเอ็มที คาลิเบอร์ 9R86 ซึ่งให้ความแม่นยำถึง ±15 วินาทีต่อเดือน สามารถจับเวลาได้สูงสุดถึง 12 ชั่วโมง และมีพลังงานสำรองอยู่ที่ 72 ชั่วโมง เมื่อขึ้นลานจนสุด โดยจะแสดงให้ทราบบนมาตรที่อยู่ถัดจากหลักชั่วโมงตำแหน่ง 8 นาฬิกา
นาฬิกาจะเริ่มจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2023 ที่ Grand Seiko บูติก และตัวแทนจำหน่ายบางแห่ง ทั่วโลก
สายหนัง 2 เส้น ที่ถูกส่งมอบมากับการสร้างสรรค์ครั้งใหม่นี้ เส้นแรกนั้น เป็นการนำเทคนิคการทอผ้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า โยโรอิโอริ ซึ่งเคยใช้สร้างชุดเกราะของซามูไรในสมัยก่อนมาใช้ร่วมด้วย แถบหนังลูกวัวและแถบผ้า ถูกประสานเข้าด้วยกันโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญเพื่อเสริมความทนทานให้กับสายนาฬิกา ส่วนเส้นที่สองนั้น เป็นสายหนังที่มีความนุ่มนวล มีผิวที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว และให้ความสบายต่อการสวมใส่
Grand Seiko Sport Collection Spring Drive
Chronograph GMT: SBGC253
คาลิเบอร์ 9R86
ระบบขับเคลื่อน: อัตโนมัติ
ความแม่นยำ (อัตราเฉลี่ยรายวัน): ±15 วินาทีต่อเดือน (±1 วินาทีต่อวัน)
พลังงานสำรอง: 72 ชั่วโมง
จับเวลาได้ถึง 12 ชั่วโมง
จำนวนทับทิม: 50
รายละเอียดทางเทคนิค
ตัวเรือนและสายไทเทเนียมชนิดความหนาแน่นสูง
ตัวล็อกแบบบานพับ 3 ทบ ปลดล็อกด้วยปุ่มกด พร้อมล็อกนิรภัยและตัวปรับขยาย
กระจกแซพไฟร์ คริสตัล ชนิดผิวโค้งทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมเคลือบกันแสงสะท้อน
ฝาหลังแบบขันเกลียว กรุกระจกใส
เม็ดมะยมแบบขันเกลียว
การกันน้ำ: 20 บาร์; ความต้านทานแม่เหล็ก: 4,800 แอมแปร์/เมตร
เส้นผ่านศูนย์กลาง: 44.5 มม.; ความหนา: 16.8 มม.
ราคาจำหน่าย 501,800 บาท